เบบี้สปิแนช : Baby Spinach
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spinacia oleracea
อยู่ในวงศ์ : Chenopodiaceae
อยู่ในวงศ์ : Chenopodiaceae
เบบี้สปิแนช เป็นพืชชนิดเดียวกับผักปวยเล้ง โดยจะใช้ต้นอ่อนในการรับประทาน เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ชอบอากาศหนาวเย็น ลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมสั้นๆ มีก้านใบยาว ออกเรียงสลับโดยรอบๆ มีสีเขียวอ่อน เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ มีลักษณะทรงรียาว โคนใบกว้างใหญ่ ปลายใบเรียวรี ผิวใบบางเรียบ มีก้านใบยาวอวบ ใบมีสีเขียว มีรสชาติหวานกรอบ นิยมรับประทานเป็นสลัด นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู มีปลูกหลายสายพันธุ์
ลักษณะทั่วไปของเบบี้สปิแนช
- ลำต้น มีขนาดเล็ก เป็นลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมสั้นๆ มีก้านใบยาวยื่นออกมาจากลำต้น โดยออกเรียงซ้อนสลับไปมาโดยรอบลำต้น ก้านใบมีสีเขียวอ่อน
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ มีลักษณะทรงรียาว โคนใบกว้างใหญ่ ปลายใบเรียวรี ผิวใบบางเรียบ มีก้านใบยาวอวบ ใบมีสีเขียว มีรสชาติหวานกรอบ โดยทั่วไปเบบี้สปิแนชจะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะของผิวใบคือ แบบใบเรียบ ใบเป็นลอนคลื่น และใบกึ่งเรียบกึ่งลอนคลื่น โดยสายพันธุ์ที่เซนฯ นำเข้ามาจำหน่ายนี้เป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะของใบเรียบ สีเขียวเข้ม ก้านใบสั้น
- ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลมๆ แทงลงในดิน มีรากฝอยและรากแขนงเล็กๆ ออกตามแนวราบ มีสีน้ำตาล
- ดอก ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว ออกตามซอกใบและที่ปลายยอด มีแขนงก้านย่อยมาก มีดอกย่อย อยู่เป็นกระจุก ดอกมีลักษณะเล็กๆ กลีบดอกมีสีเหลืองหรือสีเขียว
- ผล มีลักษณะทรงกลม ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่มีสีน้ำตาล ข้างในมีเมล็ดอยู่
- เมล็ด อยู่ในผล มีลักษณะทรงกลม มีขนาดเล็กๆ มีสีเทา ถึงน้ำตาลเข้ม
การปลูกและขยายพันธุ์เบบี้สปิแนช
เบบี้สปิแนชเป็นพืชที่สามารถ เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี ชอบอากาศหนาวเย็น มีวิธีการปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์
การเพาะเมล็ดเบบี้สปิแนชและปวยเล้ง
เบบี้สปิแนชเป็นพืชที่ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ดคือ 4 - 10 องศา C โดยใช้เวลาในการงอกจากเมล็ดประมาณ 10 - 20 วัน การเพาะเมล็ดในอุณหภูมิปกติแบบบ้านเรา (30 - 40 องศา C) เมล็ดเบบี้สปิแนชและปวยเล้งจะไม่งอกหรืออัตราการงอกต่ำ ดังนั้นการเพาะเมล็ดเบบี้สปิแนชและปวยเล้งผู้ปลูกต้องทำการกระตุ้นการงอกของเมล็ดก่อนนำไปปลูก โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.นำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 40 องศา C หรือจะใช้น้ำอุณหภูมิปกติก็ได้ แต่ควรเป็นน้ำที่ไม่มีคลอรีน หรือเป็นน้ำที่ผ่านระบบกรองเรซิน โดยแช่เมล็ดทิ้งไว้ประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง (1 คืน)
2.เตรียมกล่องถนอมอาหารที่มีฝาปิดสนิท รองด้านในกล่องด้วยทิชชูสีขาวประมาณ 4-5 ชั้น
3.พรมน้ำลงบนกระดาษทิชชูให้เปียกแต่อย่าให้มีน้ำขังในกล่อง
4.วางเมล็ดที่ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว 1 คืน วางลงบนกระดาษทิชชูให้ทั่ว แล้วปิดฝากล่องให้สนิท
5.จากนั้นให้นำกล่องเพาะนั้นไปใส่ไว้ในตู้เย็น ช่องแช่ผักหรือช่องปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 20 วันให้มาเปิดฝากล่องดูจะเริ่มเห็นว่าส่วนปลายของเมล็ดเริ่มมีรอยแตก และมีปลายรากสีขาวงอกออกมา
6.สำหรับเมล็ดที่มีรากเริ่มงอกออกมาแล้วนี้ผู้ปลูกสามารถนำเมล็ดนั้นไปเพาะใส่วัสดุเพาะเพื่อนำไปปลูกต่อในอุณหภูมิปกติได้เลยครับ
วิธีดูแลรักษาเบบี้สปิแนช
เบบี้สปิแนชเป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น ให้โดนแดดตลอดวัน จะทำให้เจริญเติบโตได้เร็ว
การเก็บเกี่ยวผลผลิตเบบี้สปิแนช
เบบี้สปิแนชให้ผลผลิตได้ มีอายุประมาณ 15-35 วัน ตามสายพันธุ์ หลังปลูกลงในแปลง ต้นอ่อนจะโตเต็มที่ ให้หรือถอนออกทั้งต้น หรือใช้มีดคมๆตัดตรงโคนต้น แล้วตัดแต่งใบเสียทิ้งไป แล้วนำใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ให้ระวังอย่าให้โดนความร้อนหรือแสงแดด จะทำให้เหี่ยวได้
วิธีเก็บรักษาเบบี้สปิแนช
จะนำเบบี้สปิแนช แล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด ล้างก้านใบให้สะอาด เราจะมีวิธีเก็บรักษาให้สดนานๆ คือให้ล้างน้ำให้สะอาดดี แล้วให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วนำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จะเก็บไว้ได้นาน
ประโยชน์และสรรพคุณเบบี้สปิแนช
เบบี้สปิแนช มีแคลเซียม มีเส้นใย พลังงาน มีวิตามินซี มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แมกนีเซียม ไนอาซีน เบตาแคโรทีน โฟเลต วิตามินเค แมงกานีส ช่วยบำรุงเลือด ช่วยห้ามเลือด ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยบำรุงฟัน ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดอาการตาบอดกลางคืน ช่วยลดความเสี่ยงของต้อกระจก ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงประสาท ช่วยบำรุงความจำ ช่วยผ่อนคลาย ช่วยนอนหลับ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก