“หน่อไม้ฝรั่ง” หรือ “แอสพารากัส” (Asparagus) เป็นพืชพื้นเมืองแถบยุโรปและแอฟริกา หน่อไม้ฝรั่ง เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีอายุหลายปี โดยปกติจะมีอายุปลูกเพื่อให้ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 10 - 15 ปี โดยการปลูกจะใช้ประโยชน์จากหน่อที่เรียกว่า "สเปียร์" Spear เป็นส่วนของลำต้นที่งอกออกมา เป็นต้นอ่อน โดยมีทั้งชนิดที่เป็นหน่อสีเขียว และหน่อสีขาว หน่อไม้ฝรั่งเป็นผักที่ทานอร่อย เนื้อกรอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถนำไปทำปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้วในหน่อไม้ฝรั่งยังสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิเช่น โปรตีน แร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เซเลเนียม โฟลาซิน และกากใยมาก อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลาย มีวิตามินซี วิตามินบี ทั้งบี 1 บี 2 บี 3 และบี 6 วิตามินเค วิตามินบี วิตามินเอ โฟเลต มีสารกลูตาไธโอน มีปริมาณเกลือต่ำมาก และไม่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอล
คุณประโยชน์ของหน่อไม้ฝรั่งนั้นมีมากมาย ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือผู้ที่เป็นเบาหวาน เหมาะที่จะกินหน่อไม้ฝรั่งเพราะมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรต แครอรี่ และไขมันต่ำ แล้วยังช่วยขับปัสสาวะ ลดกรดในลำไส้ ให้พละกำลัง และบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดชื่น
และมีการศึกษาไว้ว่ากรดอะมิโนและแร่ธาตุในสารสกัดจากหน่อไม้ฝรั่ง สามารถช่วยแก้อาการเมาค้างและป้องกันเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ได้ และสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แนะนำให้กินหน่อไม้ฝรั่ง เพราะในหน่อไม้ฝรั่งมีสารกลูตาไธโอน ซึ่งสารตัวนี้จะทำงานร่วมกับวิตามินซี ช่วยในเรื่องการกระตุ้นให้สเปิร์มมีความตื่นตัวมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น
หน่อไม้ฝรั่ง ในประเทศไทยปลูกันมากที่จังหวัด สุพรรณบุรี, นครปฐม, กาญจนบุรี, นนทบุรี และนครราชสีมา
ลักษณะทั่วไปของหน่อไม้ฝรั่ง
ส่วนประกอบต่างๆ ของหน่อไม้ฝรั่ง
1. ระบบราก
หน่อไม่ฝรั่งมีราก 2 ชนิดคือรากแก้ว ทำหน้าที่ในการเก็บสะสมอาหารและยึดลำต้นให้ตั้งอยู่ เป็นรากที่สามารถดูดซึมอาหารได้ดีเท่ากับรากฝอย รากแก้วนี้หากดินมีความอุดมสมบูรณ์ดีสามารถแผ่ขยายได้ในอัตราปีละ 1 ฟุต การหยั่งรากแก้วของหน่อไม้ฝรั่งนั้นขึ้นอยู่กับความลึกของหน้าดินหากหน้าดินลึกหน่อไม้ฝรั่งก็สามารถหยั่งรากได้มากกว่า 1 เมตร ส่วนรากฝอยนั้นจะทำหน้าที่ในการดูดซึมน้ำและอาหารในดิน
2. ลำต้น
ส่วนของลำต้นที่อยู่ในดินเรียกว่า (Root Stock, Rhizome, Crown) เป็นส่วนที่ติดอยู่กับราก ส่วนของลำต้นเหนือดินนั้นจะเจริญมาจากตาข้างของลำต้นใต้ดิน เมื่อเจริญขึ้นเป็นยอดแล้วจะเรียกส่วนนี้ว่า "ตายอด" หรือ หน่อ (สเปียร์) ที่เรานำมารับประทานนั่นเอง ปลายของหน่อจะถูกปกคลุมด้วยใบแท้ซึ่งเมื่อหน่อเจริญเติบโตขึ้นมาจะเห็นใบเป็นเกล็ดซ้อนอยู่บริเวณข้อ ซึ่งใบในส่วนนี้จะเรียกว่า คลาโดฟิล (Chlorophyll) ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างอาหารให้แก่ต้น
3. ดอกและผล
หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชที่มีต้นตัวผู้และต้นตัวเมียแยกเพศกันชัดเจน ในประเทศไทยที่อากาศค่อนข้างร้อนชื้นต้นหน่อไม้ฝรั่งจะเจริญเติบโตและออกดอกเร็วมาก เราสามารถจำแนกต้นตัวผู้และต้นตัวเมียได้จากการสังเกตุลักษณะของดอกดังนี้
3.1 ดอกตัวตัวผู้จะมีลักษณะเป็นรูประฆัง มีสีเขียวแกมเหลือง ดอกมีขนาดใหญ่และยาวกว่าดอกตัวเมีย ส่วนใหญ่จะออกอยู่ตามข้อและอยู่เป็นกลุ่มๆ 2 - 3 ดอก ภายในดอกจะมีอับเรณู 6 อัน
3.2 ดอกตัวเมีย จะมีขนาดเล็กมีจำนวนดอกไม่มาก ก้านเกสรตัวเมียมีขนาดสั้น ดอกเมื่อได้รับการผสมแล้วจะมีลักษณะผลเหมือนรูปเบอรี่สีเขียวเมื่อสุกจะมีสีแดง ด้านในผลจะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 3 - 6 เมล็ด เมล็ดมีสีดำรูปทรงกึ่งกลมกึ่งเหลี่ยม
โดยปกติหน่อไม้ฝรั่งที่เป็นต้นตัวผู้จะให้หน่อหรือผลผลิตที่มากกว่าและยาวนานกว่าตัวตัวเมีย แต่ต้นตัวเมียจะให้หน่อที่มีขนาดใหญ่กว่าหน่อของต้นตัวผู้
ประเภทของหน่อไม้
ในประเทศไทยนิยมปลูกหน่อไม้ 2 ลักษณะ คือ หน่อเขียวและหน่อขาว
1. หน่อเขียว คือการปล่อยให้หน่องอกพ้นจากดินยาวประมาณ 20 - 30 ซม. และได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ การปลูกหน่อเขียวนี้จะมีการปลูกและการดูแลมากกว่าหน่อขาว การปลูกหน่อเขียวต้องใช้หมวกพลาสติกครอบปลายหน่อไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายหน่อบานเพื่อไม่ให้เสียราคา
2. หน่อขาว คือ หน่อไม้ฝรั่งที่มีการใช้ดินหรือวัสดุปลูกกลบโคนต้นเพื่อไม้ให้หน่อถูกแสงแดด ทำให้หน่อที่เก็บมาได้มีสีขาว
ดินที่เหมาะสมในการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
1. ดินที่มีการบายน้ำได้ดี ได้แก่ดินร่วนปนทราย หน้าดินลึก มีธาตุอาหารในดินสูง
2. ดินมีค่า pH อยู่ที่ 6.0 - 6.8 หากเป็นกรดมากให้ใส่ปูนขาวอัตราส่วน 150 - 200 กิโลกรัมต่อไร่
3. ความลึกของหน้าดินที่ใช้ปลูกประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
วิธีการเพาะเมล็ด
1.นำเมล็ดไปแช่น้ำ นาน 1 วัน ก่อนนำไปเพาะเมล็ดจะงอกภายใน 7 – 15 วัน
2.หากเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ใหม่สามารถนำไปเพาะเมล็ดได้ทันทีแต่ระยะเวลา ในการงอกประมาณ 10 - 15 วัน วัสดุเพาะกล้า ดินร่วน : ใบไม้ผุ : ถ่านแกลบ : ปุ๋ยอินทรีย์ อัตราส่วน 1 : 1 : 1 : 1 หรือหากหาวัสดุไม่ได้อาจใช้ ดินร่วน : ปุ๋ยอินทรีย์ อัตราส่วน 1 : 1 ได้
การเตรียมแปลงปลูก
ทำการไถเตรียมพื้นที่ให้ราบ หากมีดินดานไถระเบิดดินดาน พร้อมกับตากดินก่อนอย่างน้อย 7 วัน ในระหว่างรอต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่งในพื้นที่ปลูกจะว่างให้ทำการปลูกถั่วเขียว เพื่อปรับสภาพของดินมีการปรับสภาพดินด้วยแกลบดิบ, ปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักสมบูรณ์, หว่านปูนขาวอัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่จากนั้นทำการไถพรวนพร้อมย่อยดิน และยกร่อง ระห่างระหว่างแถว ประมาณ 1.3-1.5 cm.
การย้ายต้นกล้าลงปลูกในแปลง
เวลาที่เหมาะสมอยู่ในช่วงที่มีแดดอ่อนๆ ตั้งแต่ 15.00 – 19.00 น.ระยะปลูกที่เหมาะสมอยู่ที่ ระหว่างแถว 130-150 ซม. ระหว่างต้น 40-50 ซม.ควรใส่ปุ๋ยสูตรเสมอรองก้นหลุม พร้อมกับปุ๋ยอินทรีย์
การให้น้ำ
-หน่อไม้ฝรั่งทนแล้งได้พอสมควร แต่ถ้าขาดน้ำหรือให้น้ำไม่สม่ำเสมอมีผล ให้ปริมาณผลผลิตลดลงอย่างมาก และคุณภาพหน่อไม้ฝรั่งไม่ดี
-ควรมีการให้น้ำทุกวัน ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่ให้และระยะเวลาที่ให้น้ำขึ้นอยู่กับวิธีการให้น้ำ, สภาพแวดล้อม (ชนิดดิน, อุณหภูมิของอากาศ, ความชื้นในอากาศ)
-หน่อไม้ฝรั่งชอบให้หน้าดินชื้น แต่ไม่ชอบให้หน้าดินแฉะและมีน้ำขัง
-พื้นที่ปลูกเป็นดินเหนียวผลผลิตจะไม่ดีเท่ากับพื้นที่ปลูกที่เป็นดินร่วน
การให้ปุ๋ย
-ช่วงการเจริญเติบโตและพักต้นควรให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารตัวหน้าสูง (N สูง) ผสมกับปุ๋ยสูตรเสมอเช่น 15-15-15, 16-16-16 อัตราการใส่ 25 – 30 กก.ต่อไร่ ใส่ทุก 10 – 15 วัน
-ช่วงระยะการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะใส่ปุ๋ยที่มีตัวหน้าและตัวหลังสูง (N, K สูง) เช่นสูตร 21-7-14, 13-7-35, 15-5-20 อัตราการใช้ 25 – 30 กก.ต่อไร่ ใส่ทุก 10 – 15 วัน
การกำจัดวัชพืช
-ส่วนใหญ่จะใช้แรงงานคนในการกำจัดวัชพืช
-ไม่นิยมใช้สารเคมีเนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับต้นหน่อไม้ฝรั่ง
การตัดแต่งต้น
-เมื่อย้ายหน่อไม้ฝรั่งลงแปลงเป็นเวลา 3 - 4 เดือน ให้ทำการคัดเลือกต้นที่ สมบูรณ์แข็งแรงไว้ 4 – 5 ต้นต่อกอ และเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ได้นาน 50 – 60 วัน
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
-วิธีการเก็บเกี่ยวใช้มือจับที่โคนหน่อแล้วดึงขึ้นในแนวตรงหากดึงไม่ตรงจะทำให้หน่อหัก ในขณะทำการเก็บเกี่ยวควรระวังอย่าให้ต้นหน่อไม้กระทบกระเทือน เพราะจะทำให้ต้นหน่อไม้ฝรั่งเกิดหน่อใหม่น้อยลง ระหว่างทำการถอนไม่ควรจับหน่อแรงเกิน
-ควรมีภาชนะใส่ผลผลิตที่เก็บจากแปลง ไม่ควรวางผลผลิตบนพื้นดิน
การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
http://www.youtube.com/watch?v=tABYQMProGI&list=PL2B92C89F4A7E5B30&index=1 การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
http://www.youtube.com/watch?v=MzRjI4ChYT0 ภัตตาคารบ้านทุ่ง 1
http://www.youtube.com/watch?v=DjS0g5_9I4A ภัตตาคารบ้านทุ่ง 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น